“อกาลิกจิต”

 พิจารณาธรรม วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๕
เวลา ๒๑.๑๐ น
 
                จิตนี้ ไม่มีกาลเวลา ไม่มีเช้า สาย บ่าย เย็น ไม่มีมืด ไม่มีสว่าง ไม่มีพระจันทร์ ไม่มีพระอาทิตย์ ไม่มีดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ  มีสภาพทรงตัวรู้  ผู้รู้เฉพาะปัจจุบันสมมุติ วางเฉยตามสภาพไม่ยึดติด ไม่จำสัญญาไว้สุข ทุกข์ เป็นธรรมารมณ์ เป็นเรื่องสมมุติ อกาลิกจิตไม่มีกาลเวลา ให้เกิด แก่ เจ็บ ตาย
                เมื่อไม่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความทุกข์ ที่อาศัยเกิด เจ็บ ตาย ก็ดับเป็นอิสระ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จากเครื่องยึดเหนี่ยว พ้นสภาวะสังขารปรุงแต่ง จิตฺตํธมฺมํ  จิตเป็นธรรมจิตทรงธรรม ธมฺมํจิตฺตํ จิต ธรรมจิต จิตฺตํอาภสฺสรํ จิตที่ผ่องใส สะอาด สว่างด้วยคุณธรรม ปราศจากอารมณ์ กิเลส กิเลสาสวะธรรม จิตจึงผ่องใสบริสุทธิ์ยิ่งนัก
                ห่วงเป็นอารมณ์ เครื่องกังวลใจ เป็นลูกตุ้ม แกว่งไกว ในบุตร ธิดา เป็นโซ่ล่ามใจไว้  คล้องล่ามดุจนักโทษเด็ดขาด เอวํ สพฺพํ สรรพสิ่งทั้งหลายเป็นยุติ ไม่กำเริบ  เอโก วิเสโส หนึ่งเดียว ที่วิเศษสูงสุด คือ จิต อรหนฺตานํวิสุทฺธิยา หมดจดบริสุทธิ์เป็นพระอรหันต์ ธมฺโมจปรินิพฺพุโตปิ ธรรมที่ถึงนี้ เป็นธรรมบรรลุพระนิพพาน
Share