ทำบุญดีกว่าไหว้เจ้า
พิจารณาธรรมวันพฤหัสบดีที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๕
เวลา ๒๓.๐๐ น.
การให้ทาน ทำบุญ ให้แล้ว เรายังนึกเห็นได้ รู้ได้ มีพยานหลักฐาน และเป็นจาคะนุสติกรรมฐานได้ ส่วนการไหว้เจ้าแล้วเอามากินเองเสียแล้ว เลยนึกไม่เห็น เพราะกินเข้าท้องไปแล้ว ไม่เกิดความอิ่มใจ ไม่เกิดความดีใจ ภูมิใจ ในด้านสงเคราะห์ผู้อื่น ไม่ได้ฝังทรัพย์ไว้ในพระพุทธศาสนา ไม่ได้ทำโลกียทรัพย์ให้เป็นโลกุตรทรัพย์ หรืออริยทรัพย์ เป็นผู้เห็นแก่ตนเอง ตายแล้วเอาทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไปไม่ได้ เพราะเป็นของจำต้องทิ้งไว้เช่นเดียวกับร่างกาย
ส่วนการให้ทานทำบุญ มันติดอยู่ที่ใจ ซึ่ง ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ ไม่สามารถทำอันตรายกับจิตใจ ซึ่งมีอริยทรัพย์ คือ ศรัทธา เป็นต้น มีความเชื่อมั่นในการให้ทานเป็นต้น ทั้งผู้ให้ทาน ทั้งผู้รับทาน ย่อมมีความเอิบอิ่ม เบิกบาน เป็นทิพย์อยู่เสมอ ล่วงไปหลายเดือน หลายปี หลายสิบปี นึกขึ้นมาคราใด ใจก็เป็นสุขสบายทุกครั้งที่ระลึกถึงการให้ทานทำบุญนั้น
เพราะฉะนั้น นิพพานก็คงอยู่ที่ใจนั้นเอง เพราะใจไม่ต้องอาศัยพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดาวนักขัตฤกษ์ ไม่ต้องมีฤดูกาล เป็นอกาลิโก ไม่ประกอบด้วยเวลา เป็นธัมโมปทีโป สว่างทั้งกลางคืน กลางวัน เห็นได้รู้ได้ที่ใจ นิพพานได้ที่ใจ ที่วิมุติหลุดพ้นทั้งอัตตาและอนัตตา