ขออโหสิ

 
               การให้อโหสิ ในหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลักการว่า “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร การจองเวร เวรของผู้นั้นย่อมไม่ระงับ” ดังนั้น การขออโหสิ และการให้อโหสิ ซึ่งกันและกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการที่มนุษย์ทั้งหลายได้เคยประพฤติล่วงเกินกัน ด้วยกาย วาจา ใจ ก็ดี ด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี รู้เท่าถึงการณ์หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี  ประมาทพลาดพลั้งไปก็ดี เราก็ต้องรุ้จักขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน  และผู้ที่ถูกกระทำถูกล่วงเกิน เมื่อผู้ที่ประพฤติล่วงเกินนั้นได้มาขออโหสิ ก็ต้องรู้จักให้อโหสิให้อภัย แล้วยุติการจองเวรซึ่งกันและกัน กรรมนั้นจะได้เป็นอโหสิกรรม เพื่อให้กรรมชั่ว วิบากกรรมชั่ว เศษกรรมชั่ว ยุติการส่งผล และเพื่อให้กรรมดี วิบากกรรมดี เศษกรรมดี ส่งผลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสังคมยุคปัจจุบันที่ทุกคนต่างกำลังแสวงหาสันติภาพในโลก สันติภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากยังมีการจองเวรจองกรรมซึ่งกันและกัน ไม่ยอมให้อโหสิให้อภัยกัน มีความอาฆาตพยาบาทปองร้ายกันอยู่ เพราะเหตุฉะนั้นโลกและสังคมมนุษย์ทั้งหลาย จึงต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงกัน ไม่มีความสุข  ไม่มีสันติสุข  ไม่มีสันติภาพเกิดขึ้นในโลก ดังนั้นหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเผยแผ่และแนะนำคำสอนให้ทุกคนยึดถือปฏิบัติต่อไป เพื่อความผาสุกเย็นกายเย็นใจเฉพาะตนและเกิดความสงบสุขร่มเย็นในสังคมโลก
System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]System.String[]