พิมพ์ 

โลก

พิจารณาธรรม วันพฤหัสบดีที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓
เวลา ๑๓.๔๘ น.

               

                มนุษย์ สัตว์ทั้งหลายในโลก เป็นไปตามกรรม  เป็นไปตามโลกเช่นไรก็ช่างเถิด   สำคัญที่ใจเราจะมีความรู้สึกต่อมนุษย์ สัตว์ทั้งหลายในโลกอย่างไรต่างหาก ถ้าความรู้สึกว่าดีก็ดีหมด ถ้ามีความรู้สึกมองในแง่ร้ายก็ร้าย ไม่ดีทั้งหมด ขึ้นอยู่กับสติปัญญา ความสามารถในความต้องการที่เรามีต่อมนุษย์ สัตว์ และโลกอย่างไรเท่านั้น

                สำหรับผู้รู้ทั้งหลาย ที่มีความยุติธรรมแก่มนุษย์ สรรพสัตว์ทั้งหลาย และโลกนี้ ด้วยวางใจเป็นกลาง ไม่มีอคติ ถ้าลำเอียงเพราะรักใคร่ ลำเอียงเพราะโกรธ ลำเอียงเพราะกลัว ลำเอียงเพราะหลง มนุษย์สัตว์โลกก็จะเป็นเช่นนั้น  จงสนใจดูเรา !ดูโลก ! ก็จะเห็นเรา จะรู้โลก และผู้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง แล้วจะเป็นผู้แจ้งโลก ได้รู้ว่า เรามนุษย์ สรรพสัตว์ และโลกไปต่างกัน มีธรรมชาติ ธรรมดา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เหมือนกัน  ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณ ความรู้สึก เปลี่ยนแปลง แผ่นดินยังไหว ฟ้ายังพิโรธ น้ำยังท่วม ลมสลาตันยังพัด อากาศวิปริตแปรปรวน

                เราได้มองเห็นแสงสว่างและความดีของพระอาทิตย์ พระจันทร์ แต่บางคนก็ไม่มองเห็นความดีของพระอาทิตย์ พระจันทร์ เพราะอะไร?  เพราะโลกนี้ยังมีคนไม่สมบูรณ์อีกมาก เช่น คนตาบอด!

                บางคนเห็นคุณความดีของบิดา มารดา ว่ามีพระคุณมาก บางคนก็มองไม่เห็นพระคุณความดีของบิดา มารดา เพราะอะไร?  เพราะในโลกนี้ คนมีเหตุผล คนมีปัญญาไม่สมบูรณ์อีกมาก เช่น ไม่มีการศึกษา!

                บางคนยังมีความเห็น บิดามารดาเป็นโรงงานผลิตมนุษย์ เห็นตัวเองเป็นผลที่เกิดจากความใคร่ มีกิเลสตัณหาปฏิเสธความสำคัญของบิดา มารดา ไม่คิดถึงพระคุณที่ได้อุ้มชูเลี้ยง  ป้องกันรักษาจนเจริญเติบโตมา คนเช่นนี้ อกตัญญูมีอยู่ดาษดื่น เป็นอุปสรรคขวางกั้นต่อความดี ต่อความสงบสุขของตนและครอบครัว เป็นผู้ป่วนสังคมของโลกให้เดือดร้อนวุ่นวาย ไม่มีความร่มเย็นเป็นสุขตลอดชีวิต
(สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสถึงการเกิดของมนุษย์ สัตว์ไว้ว่า  บิดามารดา ได้ร่วมกัน มีสัตว์วิญญาณ มาจุติปฏิสนธิ)

                หมายเหตุ ผู้มีปัญญาเท่านั้นที่ได้ศึกษาอบรมมาดีแล้ว จึงมีความกตัญญูรู้สำนึกในพระคุณของบิดามารดาของสิ่งต่างๆ จะเป็นผู้มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นผู้ถนอม บำรุงรักษาให้ยืนยาวถาวร ผู้ไม่สำนึกพระคุณ อกตัญญูบิดามารดา ในสิ่งของต่างๆ ก็จะเป็นผู้ทำร้าย ทำอันตราย ทำลาย ด้วยความโง่ของตน

                คุณความดีของพระพุทธศาสนา คุณความดีของบิดามารดา คุณความดีของครูอาจารย์ คุณความดีของผลผลิต การงานที่เป็นธรรมของมนุษย์ สรรพสัตว์ทั้งหลายของโลก ที่สรรค์สร้างโดยธรรมชาติ ใครรู้จักคุณประโยชน์ ก็นำมาอุปถัมภ์สร้างสรรค์รักษา เป็นผู้นำมาบำเพ็ญประโยชน์ ให้เกิดความสุขแก่ตนและผู้อื่น ถ้าไม่รู้คุณค่า ไม่เห็นความดี ไม่มีปัญญา ก็จะเป็นผู้ทำลาย